7 ภัยอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย 1 | Update News IT Security and News Technology - blogthongD
    Home     |     Android     |     iPhone     |     Apple     |     Google

Tuesday, June 5, 2007

7 ภัยอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย 1

(Top 7 Internet Threats in Thailand and 10 Easy Steps to Protect Yourself from the Internet Threats)

ปัญหาภัยอินเทอร์เน็ตของประเทศไทยจากสถิติในสองสามปีที่ผ่านมา พบว่ามีอัตราการเพิ่มขึ้นของปัญหาต่าง ๆ เป็นไปอย่างก้าวกระโดดตามอัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ซึ่งในขณะนี้คาดว่า ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน ตลอดจนการเพิ่มจำนวนของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตตามบ้านที่ใช้ Broadband Internet (ADSL) จำนวนไม่ต่ำกว่า 500,000 ครัวเรือน ปัญหาภัยที่มาจากอินเทอร์เน็ตจึงมีอัตราเพิ่มขึ้นจากปัจจัยดังกล่าว ซึ่งในอนาคตคาดว่าผู้ใช้ Broadband Internet น่าจะไม่ต่ำกว่า 1 ล้านครัวเรือน

ส่วนใหญ่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตตามบ้านมักจะไม่ค่อยมีความรู้ความเข้าใจเรื่องภัยอินเทอร์เน็ตเพียงพอจึงตกเป็นเหยื่อของผู้ไม่หวังดีเข้ามายึดเครื่องเพื่อทำเป็น “BOTNET” หรือ “Robot Network” จากนั้น แฮกเกอร์ ก็จะใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ตามบ้านของเราส่ง SPAM Mail หรือส่งข้อมูลตามที่แฮกเกอร์ต้องการซึ่งในปัจจุบันกฎหมายการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ได้ผ่าน สนช. เป้นที่เรียบร้อยแล้ว และ กำลังจะมีผลบังคับใช้ในอีก ไม่กี่เดือนข้างหน้าภายในปี พ.ศ. 2550 นี้ โดยมาตรา 11 ระบุชัดเจนว่าผู้ส่ง SPAM Mail มีโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท และ ผู้ที่ชอบ Forward Mail โดยไม่ระมัดระวัง และทำให้ผู้อื่นเกิดความเสียหายก็มีโทษเช่นกัน (เข้ามาตรา 14)

ดังนั้นผู้ใช้อินเทอร์เน็ตตามบ้าน อาจกลายเป็น “แพะรับบาป”โดยไม่รู้ตัว เนื่องจากแฮกเกอร์เข้ามาใช้เครื่องของเราในการทำกิจกรรมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังที่กล่าวมาแล้ว เราจึงควรเตรียมตัวพร้อมรับภัยจากอินเทอร์เน็ตในรูปแบบต่าง ๆ ที่นับวันจะมีพัฒนาการเปลี่ยนแปลงรูปแบบ ทำให้โปรแกรมกำจัดไวรัสไม่สามารถที่จะตรวจรับโปรแกรมมุ่งร้าย (MalWare) ในบางโปรแกรมได้ เราจึงจำเป็นต้องเรียนรู้และเข้าใจภัยอินเทอร์เน็ตให้มากขึ้น และตระหนักไว้เสมอว่าไม่มีโปรแกรมกำจัดไวรัส โปรแกรมใดที่สามารถป้องกันภัยอินเทอร์เน็ตให้เราได้ 100% ตัวเราเองจำเป็นต้องมีสติ และ ระมัดระวังในการเปิดไฟล์ที่แนบมากับ อิเล็กโทรนิคส์เมล์ หรือ ระวังในการ “Click” Link ต่าง ๆ ที่อยู่ใน Web Browser หรือมากับเนื้อความใน อิเล็กโทรนิคส์เมล์ (eMail) ตลอดจน Link มักถูกส่งมาจากเพื่อนที่ใช้งาน MSN หรือ IM(Instant Messaging) กับเราอยู่โดยที่เครื่องของเพื่อนเราอาจถูก MalWare เล่นงานแล้วส่ง Link มาหลอกเรา โดยที่เพื่อเราเองยังไม่รู้ตัวเลยก็เป็นได้

ภัยอันดับหนึ่ง : ภัยจาก SPAM Mail (SPAM Threat)

ปัญหา SPAM Mail ถือเป็นปัญหาอันดับหนึ่งของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในวันนี้ เพราะเราต้องเปิดอ่าน อิเล็กโทรนิคส์เมล์ทุกวัน ซึ่งหลายครั้งพบว่าเราได้รับอิเล็กโทรนิคส์เมล์ที่เราไม่อยากอ่านแต่มีผู้ส่งมาให้เราเป็นประจำ เช่น email ขายยา Viagra เป็นต้น นอกจากจะเกิดความรำคาญในการคัดเลือก Junk Email แล้ว อิเล็กโทรนิคส์เมล์บางฉบับมีไฟล์แนบหรือ “Attached File” ที่เป็น Mal Ware หรือ Virus โดยจะมีนามสกุลไฟล์แปลก ๆ เช่น .SCR หรือ .PIF บางครั้งก็ใช้นามสกุลไฟล์ที่เห็นได้ชัดว่าเป็นโปรแกรมไม่ใช่ไฟล์เอกสาร เช่น นามสกุลไฟล์ .EXE, .COM หรือเป็น Script เช่น .VBS, .BAT หรือ .CMD เป็นต้น ไฟล์นามสกุลต่าง ๆ ดังที่กล่าวมาแล้วล้วนมีโอกาสเป็น Mal ware ถึง 95% ขึ้นไป ดังนั้น เราจึงไม่ควรเปิดไฟล์แนบดังกล่าว (ควรจะลบทิ้งเลยด้วยซ้ำ) และนอกจากนั้นไฟล์นามสกุล .ZIP ซึ่งเป็นไฟล์ที่ถูกบีบอัดมาบางไฟล์มีไฟล์ MalWare อยู่ข้างในก็มี เราจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ในการเปิดไฟล์แนบ แม้ว่า email นั้นจะมาจากคนรู้จักหรือเพื่อนร่วมงานก็ไม่ควรไว้ใจเพราะ SPAMMER อาจจะแอบขโมย email address จาก Google ได้เพียงแค่พิมพ์ @ ตามด้วย Domain name เช่น @ abc.com ก็สามารถจะหา email address ได้อย่างง่ายดาย เราจึงไม่ควรเปิดเผย email address ของเราในอินเทอร์เน็ตโดยไม่จำเป็น
เนื่องจากผลกระทบของ SPAM Mail ไม่ใช่แค่เรื่องความรำคาญแต่ SPAM Mail อาจนำ MalWare หรือ Virus เข้ามาในเครื่องคอมพิวเตอร์ตลอดจนระบบเครือข่ายของเรา ดังนั้น การใช้โปรแกรมหรืออุปกรณ์ในการป้องกัน SPAM (ANTI-SPAM) จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด โดยเฉพาะองค์กรที่มีผู้ใช้งาน email เป็นจำนวนมาก ยิ่งจำเป็นต้องจัดหาอุปกรณ์ ANTI-SPAM มาใช้ที่บริเวณ Gateway หรือ บริเวณ DMZ ของระบบเครือข่าย เพื่อให้มั่นใจว่าเราได้มีการป้องกันในระดับที่ไม่ส่งผลกระทบกับองค์กรในกรณีที่ผู้ใช้ได้รับ SPAM Mail แล้วเผลอเปิดไฟล์แนบที่มี MalWare หรือ Virus ติดมาโดยไม่ระมัดระวัง การป้องกัน SPAM ที่บริเวณ Gateway นั้นเป็นปราการด่านแรกที่เราควรจะมี หากหลุดจาก Gateway มาแล้วก็ควรจะกรองที่ email server และ email client อีก สองชั้น หากทำได้ตามนี้ เชื่อว่าปัญหา SPAM ก็จะลดลง เช่น จากเคยได้รับ SPAM Mailวันละ 20-30 ฉบับ ก็ อาจเหลือเพียง 1-2 ฉบับ ต่อวัน ก็ถือว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง
แค่นี้ก่อน โปรดติดตามอ่านตอนต่อไปนะครับ......

0 Comment: